ผ้ามหายันต์

• ผ้ามหายันต์ที่กล่าวถึงนี้ เขียนขึ้นโดย ‘หลวงปู่พระมหาศิลา สิริจันโท’ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๔ เขียนขึ้นทั้งสิ้น ๕ ผืน โดยหลวงปู่ท่านได้รวบรวมสรรพวิชาทั้งหมดที่ร่ำเรียน นำมาจารึกลงในผ้ามหายันต์นี้

• ผ้ามหายันต์ ที่ปรากฏในภาพนี้ เป็นผ้ามหายันต์ที่ถูกเขียนขึ้นเป็นผืนแรก หลวงปู่ท่านใช้ระยะเวลาในการเขียนยันต์ ๒ เดือนเต็ม โดยเขียนเองคนเดียวทั้งหมด แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ค่อยสวย ท่านจึงเขียนขึ้นใหม่ โดยเลือก ๒ ผืนที่สวยที่สุด นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพื่อปกป้องคุ้มภัยตามเอกสารทูลเกล้าฯ ผ่านกรมสื่อสารทหารอากาศดอนเมือง ลงวันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๕ โดยพลอากาศเอกหม่อมราชวงศ์ เสริม สุขสวัสดิ์ เจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศเป็นผู้ลงนามหนังสือ และพลเรือเอกหม่อมเจ้ากาฬวรรณดิธ ดิสกุล เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าถวาย

• ในผ้ามหายันต์ จะประกอบไปด้วยยันต์หลายอย่าง ซึ่งน้อยคนนักที่จะทราบถึงความสำคัญของผ้ามหายันต์ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เนื่องจากในยุค ปี พ.ศ.๒๕๑๕ นั้น เป็นยุคแห่งการก่อการคอมมิวนิสต์ มีทั้ง ปืน ระเบิด อยู่ทุกหัวระแหง หลวงปู่ท่านจึงเขียนผ้ามหายันต์นี้ขึ้นเพื่อปกป้องคุ้มครองพระองค์ทั้งสอง ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเสี่ยงภัยไปในพื้นที่สีแดง

• โดยมหายันต์นี้ จะเน้นไปในทาง ‘กันปืน‘ ’กันระเบิด’ ซึ่งหลวงปู่ท่านเขียนไว้ มีระบุทั้งลูกซองสั้น ลูกซองยาว ปืนแก๊บ ปืนอาก้า .๓๕๗ ปืนกล รวมทั้งระเบิด มีคาถาพระปิดตามหาอุต พระมหาอุปคุต ยันต์หนุมาน องคต พาลี รวมทั้งหมดหลายพันพระคาถา สำหรับผืนจริง ชาวบ้านที่บ้านธาตุประทับ โจษขานกันนักว่า มีคนอยากลองวิชาใช้ปืนลูกซองยิงลองของ แต่ปืนกลับแตกคามือ

• ดร. อธิราช อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนครพนม และ ผศ.ดร.ปฐมพงศ์ ณ จำปาศักดิ์ บรมจารย์ผู้เชียวชาญด้านอักษรธรรมลาว ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ยันต์ผืนนี้รวมสรรพวิชาทางล้านช้างไว้จำนวนมาก และมีกลคาถาเงื่อนคาถา หมุนเวียนซับซ้อนอย่างแยบยล ซึ่งเป็นสูตรทางโบราณ ‘ผ้ายันต์ผืนนี้คือตำราบทใหม่แห่งวงวิชาการ‘ และอาจเป็นผ้ายันต์ที่มีอักขระเยอะที่สุดในเมืองไทยที่เขียนขึ้นโดยคนคนเดียว

• สำหรับ ‘หลวงปู่พระมหาศิลา‘ นั้น ท่านได้ร่ำเรียนวิปัสนา เรียนอักษรธรรมลาว และอ่านหนังสือจากใบลานอีสานได้อย่างแตกฉาน รวมทั้งได้ศึกษาคัมภีร์ใบลาน สายสมเด็จลุนจาก สปป.ลาว หลายฉบับจนแตกฉาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๐

• หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ปลีกวิเวกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าช้าร้างหลายแห่ง จนหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด ซึ่งเคารพนับถือท่านมาก ได้กราบนิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัด โดยหลวงปู่ประสงค์จะปลีกวิเวก ณ สวนสงฆ์บ้านแกเปะ เหล่าศิษยานุศิษย์จึงร่วมกันสร้างกุฏิถวายให้หลวงปู่ได้จำพรรษา ต่อมาพระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ได้มีความเลื่อมใสในองค์หลวงปู่ จึงได้นิมนต์ท่านขึ้นไปร่วมงานพุทธาภิเษกพระกริ่งวัดสุทัศน์ฯ รวมถึงหลายๆวัดในภาคอีสานจะกราบอาราธนาหลวงปู่ไปร่วมเมตตาอธิษฐานจิตแทบทุกงาน เนื่องจากเหล่าศิษยานุศิษย์ได้ประจักษ์แก่สายตา เรื่องพุทธาคม วัตรปฎิบัติ ความเมตตา ความสันโดษ และเรื่องญาณหยั่งรู้ที่น่าอัศจรรย์

• รวมทั้งความรู้ในเชิงวิชาการของท่าน ที่หลวงปู่พระมหาศิลาได้ศึกษาปริยัติอย่างมุ่งมั่น จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม ๖ ประโยค เป็นรูปแรกของสำนักวัดบูรพาภิราม รับพัดเปรียญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้รับหน้าที่เป็นพระอาจารย์สอนที่ รร.วัดนิคมคณาราม จ.ร้อยเอ็ดและรับหน้าที่เป็นพระที่สวดปาฏิโมกข์ในการลงอุโบสถของคณะสงฆ์ตลอดมา

• หลวงปู่พระมหาศิลา สิริจันโท ท่านเปรียบเสมือนครูของเหล่าพระสงฆ์และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย รวมทั้งเหล่าพุทธศาสนิกชนที่เคารพเลื่อมใส นอกจากนั้นท่านยังเป็นพระนักพัฒนา ที่สนับสนุนทั้งในเรื่องของการศึกษา โรงพยาบาล และวัดวาอารามที่ขาดแคลนห่างไกล ท่านจึงเปรียบเสมือนศูนย์รวมใจของประชาชนทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ และศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศในปัจจุบัน

• เทวา ไทยแลนด์ ขอน้อมกราบในเมตตาและคุณูปการทั้งหลายของหลวงปู่อันหาที่สุดมิได้ ขอให้หลวงปู่สุขภาพแข็งแรง รักษาธาตุขันธ์ เป็นศูนย์รวมใจและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอันสำคัญของพวกเราสืบไป

เครดิตข้อมูลและภาพ : อ.ลิ้ง ชนะวุธ อุทโท

เรียบเรียงอีกครั้งโดย เทวา ไทยแลนด์